วิธีการ คำนวณ ผลกำไร ใน การซื้อขาย ตัวเลือก

ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับตัวเลือกการทำกำไรการซื้อขายตัวเลือกมีโอกาสที่นักลงทุนจะได้รับผลกำไรจากหนึ่งในสองวิธีพื้นฐานโดยเป็นผู้ซื้อตัวเลือกหรือโดยการเป็นนักเขียนตัวเลือก (หรือผู้ขาย) ในขณะที่นักลงทุนบางรายมีความเข้าใจผิดว่าการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะมีผลกำไรได้ในช่วงที่มีความผันผวนสูง ความเป็นจริงก็คือตัวเลือกที่สามารถทำกำไรได้แม้ในช่วงเวลาที่มีความผันผวนต่ำ การซื้อขายตัวเลือกอาจมีผลกำไรภายใต้สถานการณ์ที่ถูกต้องเนื่องจากราคาของสินทรัพย์เช่นหุ้นสกุลเงินและสินค้าโภคภัณฑ์มักเป็นแบบไดนามิกและไม่เคยเกิดขึ้นเนื่องด้วยกระบวนการต่อเนื่องของการค้นพบราคาในตลาดการเงิน (ดูบทแนะนำ Investopedias เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับตัวเลือก) สับสนไม่ทราบว่าคุณทำให้จากสายของคุณ Thats สิ่งที่วิดีโอ Investopedias เป็นข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับตัวเลือกการโทรแบบดูข้อมูลและข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับตัวเลือกในการวางพื้นฐาน) พื้นฐานของการทำกำไรจากตัวเลือกผู้ซื้อเลือกทำกำไรถ้าสินทรัพย์พื้นฐานช่วยให้ พูดหุ้นเพื่อให้ง่ายขึ้นเหนือราคานัดหยุดงาน (สำหรับการโทร) หรือต่ำกว่าราคานัดหยุดงาน (สำหรับวาง) ก่อนหมดอายุของสัญญาตัวเลือก ในทางตรงกันข้ามนักเขียนตัวเลือกจะทำกำไรได้หากหุ้นอ้างอิงอยู่ต่ำกว่าราคาการประท้วง (หากมีการเขียนตัวเลือกการโทร) หรืออยู่เหนือราคาการประท้วง (หากมีการเขียนตัวเลือกการขายล่วงหน้า) ก่อนหมดอายุ จำนวนเงินที่แน่นอนของกำไรขึ้นอยู่กับ (ก) ความแตกต่างระหว่างราคาหุ้นกับราคาการตีราคาตามสิทธิเมื่อหมดอายุหรือเมื่อปิดตำแหน่งตัวเลือกและ (ข) จำนวนเงินที่ชำระโดยผู้ซื้อที่เลือก ตัวเลือก) (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ตัวเลือกมีราคา) ผู้ซื้อตัวเลือกและผู้ขายตัวเลือกผู้ซื้อที่เลือกสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้มากถ้าการค้าขายกับตัวเลือกทำงานได้ นักเขียนตัวเลือกทำให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างเล็กลงหากการค้าขายกับตัวเลือกมีผลกำไรซึ่งทำให้คำถามถามว่าทำไมต้องรำคาญกับตัวเลือกการเขียนเนื่องจากอัตราเดิมพันมักจะขาดลอยในด้านของตัวเลือกการเขียน การศึกษาในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 โดย Chicago Mercantile Exchange (CME) พบว่ามีตัวเลือกทั้งหมดน้อยกว่า 75 ตัวที่หมดอายุใน CME หมดอายุแล้ว แน่นอนว่านี่ไม่รวมถึงตำแหน่งตัวเลือกที่ถูกปิดหรือใช้ก่อนหมดอายุ แต่อย่างไรก็ตามความจริงที่ว่าสำหรับสัญญาที่เป็นตัวเลือกในเงิน (ITM) เมื่อหมดอายุมีสามอย่างที่เป็นเงิน (OTM) และไม่มีค่าใช้จ่ายจึงเป็นสถิติที่บอกได้สวย การประเมินความเสี่ยงของคุณ Heres การทดสอบง่ายๆในการประเมินความเสี่ยงของคุณเพื่อตรวจสอบว่าคุณดีกว่าการเป็นผู้ซื้อตัวเลือกหรือนักเขียนตัวเลือก สมมติว่าคุณสามารถซื้อหรือเขียนสัญญาสิทธิเลือกซื้อได้ 10 รายการโดยราคาของแต่ละสายจะอยู่ที่ 0.50 โดยปกติสัญญาแต่ละฉบับมี 100 หุ้นเป็นสินทรัพย์อ้างอิงดังนั้นสัญญา 10 สัญญาจะมีมูลค่า 500 (สัญญา 0.50 x 100 x 10) หากคุณซื้อสัญญาสิทธิเลือกซื้อ 10 รายการคุณจะต้องเสียเงินจำนวน 500 รายและเป็นจำนวนเงินสูงสุดที่คุณต้องเสีย อย่างไรก็ตามกำไรที่เป็นไปได้ของคุณอาจเป็นไปได้ในทางทฤษฎี ดังนั้นความสามารถในการจับความน่าจะเป็นของการค้าที่ทำกำไรไม่สูงมาก แม้ว่าความน่าจะเป็นนี้ขึ้นอยู่กับความผันผวนโดยนัยของตัวเลือกการโทรและระยะเวลาที่เหลือจะหมดอายุให้เรียก 25. ในทางตรงกันข้ามถ้าคุณเขียนสัญญาสิทธิเลือก 10 รายการกำไรสูงสุดของคุณคือจำนวนเงินของรายได้เบี้ยประกันภัย หรือ 500 ในขณะที่ความสูญเสียของคุณไม่ จำกัด ตามหลักวิชา อย่างไรก็ตามโอกาสในการเลือกการค้าที่ทำกำไรได้มากในความโปรดปรานของคุณที่ 75 ดังนั้นคุณจะเสี่ยง 500 รู้ว่าคุณมีโอกาส 75 ของการสูญเสียการลงทุนของคุณและ 25 โอกาสในการทำคะแนนใหญ่หรือคุณต้องการ เพื่อสร้างรายได้สูงสุด 500 ครั้งโดยรู้ว่าคุณมีโอกาส 75% ในการรักษาจำนวนเงินทั้งหมดหรือบางส่วน แต่มีโอกาสเป็น 25 แห่งในการค้าที่สูญเสียไปคำตอบสำหรับคำถามนี้จะทำให้คุณเข้าใจถึงความเสี่ยงของคุณ และไม่ว่าคุณจะดีกว่าการเป็นผู้ซื้อตัวเลือกหรือนักเขียนตัวเลือก ผลตอบแทนที่ได้รับจากความเสี่ยงของกลยุทธ์ตัวเลือกพื้นฐานในขณะที่การโทรและวางสามารถรวมกันได้ในการทำพีชคณิตต่างๆเพื่อสร้างกลยุทธ์ทางเลือกที่ซับซ้อนให้ประเมินผลตอบแทนที่ได้รับจากสี่กลยุทธ์พื้นฐานที่สุดซื้อสาย นี่คือกลยุทธ์ทางเลือกขั้นพื้นฐานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เป็นกลยุทธ์ความเสี่ยงที่ค่อนข้างต่ำเนื่องจากการสูญเสียสูงสุดถูก จำกัด ไว้ที่เบี้ยประกันภัยที่จ่ายให้กับการซื้อสายในขณะที่รางวัลสูงสุดอาจไม่ จำกัด (แม้ว่าตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้อัตราต่อรองของการค้าที่ทำกำไรได้โดยทั่วไปค่อนข้างต่ำ) . ซื้อวาง: นี่เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ แต่อาจได้รับรางวัลสูงถ้าการค้าขายทำงานออกไป ซื้อทำให้เป็นทางเลือกที่เป็นไปได้กับกลยุทธ์ความเสี่ยงของการขายสั้น ในขณะที่ยังสามารถซื้อได้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในพอร์ตลงทุน แต่เนื่องจากดัชนีหุ้นมักจะมีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปซึ่งหมายความว่าหุ้นโดยเฉลี่ยมีแนวโน้มที่จะล่วงหน้าบ่อยกว่าที่พวกเขาปฏิเสธโปรไฟล์การให้รางวัลความเสี่ยงของผู้ซื้อที่วางน้อยลงเล็กน้อยดีกว่าผู้ซื้อโทร เขียนใส่ การเขียนเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ค้าตัวเลือกขั้นสูงเนื่องจากในกรณีที่เลวร้ายที่สุดสต็อกจึงได้รับมอบหมายให้เขียนในขณะที่สถานการณ์สมมติที่ดีที่สุดคือผู้เขียนสงวนสิทธิ์การเป็น Premium Option ไว้เต็มจำนวน ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดในการเขียนคือนักเขียนอาจต้องเสียเงินมากเกินไปสำหรับหุ้นถ้าเป็นถังต่อมา รายละเอียดเกี่ยวกับความเสี่ยงในการเขียนเชิงลบถือว่าไม่เอื้ออำนวยมากกว่าการซื้อหรือซื้อเนื่องจากรางวัลสูงสุดเท่ากับเบี้ยประกันภัยที่ได้รับ แต่การสูญเสียสูงสุดจะสูงกว่ามาก การเขียนสาย การเขียนการโทรมาในรูปแบบสองแบบที่ครอบคลุมและเปิด (หรือเปลือยกาย) การเขียนบทที่ได้รับความคุ้มครองเป็นอีกยุทธวิธีที่น่าสนใจสำหรับผู้ค้าตัวเลือกขั้นสูงถึงขั้นสูงและโดยทั่วไปมักใช้เพื่อสร้างรายได้เสริมจากพอร์ตโฟลิโอ โดยจะต้องมีการเขียนสายหรือเรียกหุ้นที่ถืออยู่ภายในพอร์ตการลงทุน แต่การเขียนการโทรแบบเปิดหรือเปล่าเป็นจังหวัดพิเศษสำหรับผู้ค้าที่มีความเสี่ยงสูงที่มีความเสี่ยงเนื่องจากมีรายละเอียดความเสี่ยงคล้ายกับการขายสั้น ๆ ในหุ้น รางวัลสูงสุดในการเขียนโปรแกรมเท่ากับเบี้ยประกันภัยที่ได้รับ ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดกับกลยุทธ์การโทรที่ครอบคลุมคือหุ้นพื้นฐานจะถูกเรียกออกไป ด้วยการเขียนสายเปล่า การสูญเสียสูงสุดคือทฤษฎีไม่ จำกัด เช่นเดียวกับที่มีการขายสั้น ๆ นักลงทุนและผู้ค้าดำเนินการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งเพื่อป้องกันความเสี่ยงของสถานะการเปิด (ตัวอย่างเช่นการซื้อเพื่อป้องกันความเสี่ยงในระยะยาวหรือซื้อสายเพื่อป้องกันความเสี่ยงในระยะสั้น) หรือเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์อ้างอิง ประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดของการใช้ตัวเลือกคือการใช้ประโยชน์ ตัวอย่างเช่นสมมติว่านักลงทุนมีเงินลงทุน 900 รายและต้องการเงินมากที่สุดสำหรับเจ้าชู้ นักลงทุนค่อนข้างรันทดในระยะสั้นเช่น Apple ที่เราสมมติว่าซื้อขายกันที่ราคา 90 และสามารถซื้อหุ้นของ Apple ได้สูงสุด 10 หุ้น (ไม่รวมค่าคอมมิชชั่นสำหรับความเรียบง่าย) แอ็ปเปิ้ลยังมีการโทรสามเดือนที่มีราคานัดหยุดงาน 95 ซึ่งสามารถใช้ได้สำหรับ 3 แทนการซื้อหุ้นผู้ลงทุนจะซื้อสัญญาการซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 3 สัญญา (ละเว้นค่าคอมมิชชั่นอีกครั้ง) ไม่นานก่อนที่ตัวเลือกการโทรจะหมดอายุสมมติว่า Apple กำลังซื้อขายที่ 103 และมีการซื้อขายสายที่ 8 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนขายสาย อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในแต่ละกรณีการซื้อหุ้นของ Apple อย่างสมบูรณ์: กำไร 13 จาก (103 - 90) x 10 หุ้น 130 14.4 ผลตอบแทน (130 900) ซื้อสัญญา 3 สิทธิเลือก: กำไร 8 x 100 x 3 สัญญา 2,400 ลบเบี้ยประกันภัยที่จ่าย 900 166.7 กลับจาก (2,400 - 900) 900) แน่นอนความเสี่ยงกับการซื้อสายมากกว่าหุ้นคือถ้า Apple ไม่ได้ซื้อขายเหนือ 95 โดยการหมดอายุตัวเลือกโทรจะหมดอายุไร้ค่า ในความเป็นจริงแอ็ปเปิ้ลจะต้องซื้อขายที่ 98 (นั่นคือ 95 ราคานัดหยุดงานประท้วง 3 เบี้ยประกันภัยที่จ่าย) หรือประมาณ 9 ครั้งจากราคาเมื่อมีการซื้อสายเพื่อลดการค้า นักลงทุนสามารถเลือกที่จะใช้ตัวเลือกการโทรแทนที่จะขายให้จองกำไร แต่การใช้สายเรียกร้องจะทำให้นักลงทุนเกิดเงินเป็นจำนวนมาก หากนักลงทุนไม่สามารถหรือไม่ทำเช่นนั้นเขาหรือเธอจะละเว้นกำไรเพิ่มเติมที่ทำโดยหุ้นของ Apple หลังจากที่ตัวเลือกหมดอายุ การเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมในการซื้อขายนี่คือหลักเกณฑ์กว้าง ๆ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าจะเลือกใช้รูปแบบใดในการค้าแบบรุกหรือหยาบคาย คุณมีรสนิยมหรือหยาบคายในหุ้นภาคหรือตลาดกว้างที่คุณต้องการค้าถ้าเป็นคุณอาละวาดปานกลางหรือเพียงแค่รัวตาด (หรือหยาบคาย) การตัดสินใจนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกกลยุทธ์ที่จะใช้ สิ่งที่ตีราคาที่จะใช้และสิ่งที่หมดอายุที่จะไปสำหรับ ช่วยให้คุณบอกว่าคุณกำลังรัวอาละวาดในหุ้นสมมุติ XYZ ซึ่งเป็นหุ้นเทคโนโลยีที่ซื้อขายได้ที่ 46 ความผันผวน ความผันผวนโดยนัยสำหรับ XYZ ไม่สูงมาก (พูด 20) แล้วอาจเป็นความคิดที่ดีที่จะซื้อสายในหุ้นเนื่องจากการโทรดังกล่าวอาจเป็นราคาที่ค่อนข้างถูก ราคาต่อรองและวันหมดอายุ เมื่อคุณรุกล้ำไปกับ XYZ คุณจะรู้สึกสบายใจกับการซื้อตั๋วเงิน สมมติว่าคุณไม่ต้องการใช้จ่ายมากกว่า 0.50 ต่อครั้งและสามารถเลือกได้ว่าจะโทรเป็นเวลาสองเดือนโดยมีราคาการประท้วง 49 ที่มีให้บริการสำหรับ 0.50 หรือมีการโทรสามเดือนที่มีราคาการประท้วง 50 ซึ่งมีให้บริการสำหรับ 0.47 คุณตัดสินใจที่จะไปกับหลังเนื่องจากคุณเชื่อว่าราคาตีที่สูงกว่าเล็กน้อยมากกว่าชดเชยโดยเดือนพิเศษถึงวันหมดอายุ เกิดอะไรขึ้นถ้าคุณมีความผันผวนเพียงเล็กน้อยใน XYZ และความผันผวนโดยนัย 45 มีค่ามากกว่าตลาดทั่วไปถึง 3 เท่าในกรณีนี้คุณอาจพิจารณาการเขียนธุรกิจระยะใกล้เพื่อหารายได้พรีเมี่ยมมากกว่าการซื้อสายโทรศัพท์เช่นในกรณีก่อนหน้านี้ . ในฐานะผู้ซื้อเลือกวัตถุประสงค์ของคุณควรจะซื้อตัวเลือกที่มีการหมดอายุที่ยาวที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อที่จะให้เวลาการค้าของคุณในการทำงานออก ตรงกันข้ามเมื่อคุณกำลังเขียนตัวเลือกให้ไปเพื่อการหมดอายุที่สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อจำกัดความรับผิดของคุณ เมื่อซื้อตัวเลือกการซื้อที่ถูกที่สุดที่เป็นไปได้อาจช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ ความผันผวนของตัวเลือกราคาถูกเช่นนี้มีแนวโน้มที่จะต่ำมากและในขณะนี้แสดงให้เห็นว่าอัตราเดิมพันของการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จมีน้อยมากเป็นไปได้ว่าความผันผวนโดยนัยและด้วยเหตุนี้ทางเลือกจึงมีการปรับลด ดังนั้นหากการค้าทำผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้มาก ตัวเลือกในการเลือกซื้อที่มีความผันผวนโดยนัยอาจเป็นที่นิยมในการซื้อสินค้าที่มีความผันผวนสูงมากเนื่องจากความเสี่ยงที่จะสูญเสียมากขึ้นหากการค้าไม่ได้ผล มีการตีราคาระหว่างราคานัดหยุดงานกับการหมดอายุตัวเลือกตามที่แสดงตัวอย่างก่อนหน้านี้ การวิเคราะห์ระดับการสนับสนุนและความต้านทานตลอดจนเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นที่สำคัญ (เช่นการเปิดเผยรายได้) จะเป็นประโยชน์ในการพิจารณาราคาตีและการหมดอายุที่จะใช้ ทำความเข้าใจกับเซกเตอร์ที่หุ้นอยู่ ตัวอย่างเช่นหุ้นเทคโนโลยีชีวภาพมักจะค้ากับผลลัพธ์แบบไบนารีเมื่อผลการทดลองทางคลินิกของยาตัวใหญ่ ๆ จะได้รับการประกาศ ลึกออกจากสายเงินหรือทำให้สามารถซื้อเพื่อการค้ากับผลลัพธ์เหล่านี้ขึ้นอยู่กับว่าหนึ่งคือรั้นหรือหยาบคายในหุ้น เห็นได้ชัดว่ามีความเสี่ยงที่จะมีการเขียนการเรียกร้องหรือการใส่หุ้นเทคโนโลยีชีวภาพในเหตุการณ์ดังกล่าวเว้นแต่ระดับความผันผวนโดยนัยนั้นสูงมากจนทำให้รายได้เบี้ยประกันภัยรับชดเชยความเสี่ยงนี้ ในทำนองเดียวกันการซื้ออย่างลึกซึ้งจากการเรียกเก็บเงินหรือทำให้ภาคธุรกิจมีความผันผวนต่ำเช่นบริการด้านสาธารณูปโภคและโทรคมนาคม ใช้ตัวเลือกเพื่อการค้ากิจกรรมแบบครั้งเดียวเช่นการปรับโครงสร้างองค์กรและการแบ่งปั่นและกิจกรรมที่เกิดซ้ำเช่นการเผยแพร่รายได้ หุ้นสามารถแสดงพฤติกรรมที่ผันผวนมาก ๆ ในเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการค้าหลักทรัพย์ที่มีความรู้มีโอกาสที่จะได้รับเงินเข้าด้วยกันตัวอย่างเช่นการซื้อเงินที่เสียค่าใช้จ่ายก่อนที่จะมีการรายงานผลประกอบการของหุ้นที่ตกต่ำอย่างเด่นชัด อาจเป็นกลยุทธ์ที่ทำกำไรได้หากสามารถเอาชนะความคาดหวังที่ลดลงและเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นักลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำควรติดกลยุทธ์พื้นฐานเช่นโทรหรือซื้อในขณะที่กลยุทธ์ที่สูงขึ้นเช่นการเขียนและการเขียนข้อความควรใช้โดยนักลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงเพียงพอที่จะยอมรับได้ เป็นกลยุทธ์ตัวเลือกสามารถปรับแต่งเพื่อให้ตรงกับความเสี่ยงความเสี่ยงที่ไม่ซ้ำกันและความต้องการกลับมาพวกเขาให้เส้นทางมากมายในการทำกำไร การเปิดเผย: ผู้เขียนไม่ได้เป็นเจ้าของหลักทรัพย์ใด ๆ ที่กล่าวถึงในบทความนี้ในขณะที่เผยแพร่ ข้อ 50 คือข้อตกลงการเจรจาต่อรองและข้อยุติในสนธิสัญญา EU ที่ระบุขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการสำหรับประเทศใด ๆ ที่ เบต้าเป็นตัวชี้วัดความผันผวนหรือความเสี่ยงอย่างเป็นระบบของการรักษาความปลอดภัยหรือผลงานเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม ประเภทของภาษีที่เรียกเก็บจากเงินทุนที่เกิดจากบุคคลและ บริษัท กำไรจากการลงทุนเป็นผลกำไรที่นักลงทุนลงทุน คำสั่งซื้อความปลอดภัยที่ต่ำกว่าหรือต่ำกว่าราคาที่ระบุ คำสั่งซื้อวงเงินอนุญาตให้ผู้ค้าและนักลงทุนระบุ กฎสรรพากรภายใน (Internal Internal Revenue Service หรือ IRS) ที่อนุญาตให้มีการถอนเงินที่ปลอดจากบัญชี IRA กฎกำหนดให้ การขายหุ้นครั้งแรกโดย บริษัท เอกชนต่อสาธารณชน การออกหุ้นไอพีโอมักออกโดย บริษัท ที่อายุน้อยกว่าและอายุน้อยกว่าที่กำลังมองหาคำอธิบายเต็มรูปแบบของ Margin Margin เป็นคำที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในแง่ทางการเงิน แต่คำที่น่าเสียดายที่เป็นคำที่มักสับสนสำหรับผู้คน ส่วนใหญ่เป็นเพราะมีความหมายแตกต่างกันขึ้นอยู่กับบริบทที่มีการใช้งานโดยเฉพาะความหมายของคำที่ใช้ในการซื้อขายตัวเลือกแตกต่างกันมากกับความหมายของคำที่ใช้ในการซื้อขายหุ้น อัตรากำไรจากวลีเป็นคำทั่วไปและนั่นหมายถึงอะไรอีก ในหน้านี้เราจะอธิบายว่า margin หมายถึงอะไรในบริบทที่แตกต่างกันเหล่านี้และให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีใช้ในการซื้อขายหลักทรัพย์ Margin Margin Margin Margin Margin ในการซื้อขายหลักทรัพย์ใน Futures Trading ตัวเลือก Trading Standard Portfolio ผลการวิเคราะห์ความเสี่ยงหมวดเนื้อหา Quick Links ตัวเลือกที่แนะนำ Brokers อ่านทบทวนเยี่ยมชมโบรกเกอร์อ่านรีวิวเยี่ยมชมโบรกเกอร์อ่านรีวิวเยี่ยมชมโบรกเกอร์อ่านทบทวนเยี่ยมชมโบรกเกอร์อ่านทบทวนเยี่ยมชม Broker Margin Profit Profit margin คือ คำที่ใช้ทั่วไปในแง่ทางการเงินในหลายสถานการณ์ที่แตกต่างกัน คำจำกัดความที่ง่ายที่สุดของคำนี้คือความแตกต่างระหว่างรายได้กับต้นทุนและมีอัตรากำไรอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ gross และ net กำไรขั้นต้นคือรายได้หรือรายได้หักด้วยต้นทุนทางตรงในการสร้างรายได้หรือรายได้ ตัวอย่างเช่นสำหรับ บริษัท ที่ทำและขายผลิตภัณฑ์อัตรากำไรขั้นต้นของพวกเขาคือจำนวนรายได้ที่พวกเขาได้รับจากการขายผลิตภัณฑ์โดยหักต้นทุนในการผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าว กำไรสุทธิของพวกเขาคือรายได้หรือรายได้ลบด้วยต้นทุนทางตรงและค่าใช้จ่ายทางอ้อม นักลงทุนและผู้ค้ายังสามารถใช้อัตรากำไรระยะยาวเพื่ออธิบายจำนวนเงินที่ลงทุนได้ ตัวอย่างเช่นหากนักลงทุนซื้อหุ้นและขายหุ้นเหล่านั้นในราคาที่สูงขึ้นกำไรขั้นต้นของพวกเขาจะเป็นความแตกต่างระหว่างสิ่งที่พวกเขาขายที่และสิ่งที่พวกเขาซื้อมาที่ กำไรสุทธิของพวกเขาจะแตกต่างลบค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกิจการค้า อัตรากำไรสามารถแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์หรือจำนวนจริง ตัวอย่างเช่นถ้าคุณมีกำไร 10 จากการลงทุน 100 อัตรากำไรของคุณจะอยู่ที่ 10 หรือ 10. Margin ใน Stock Trading คุณอาจได้ยินว่าผู้คนอ้างถึงการซื้อหุ้นในอัตรากำไรและนี่เป็นเพียงการยืมเงินจากโบรกเกอร์ของคุณเพื่อซื้อหุ้นมากขึ้นเท่านั้น หากคุณมีบัญชีกำไรกับโบรกเกอร์หุ้นของคุณคุณจะสามารถซื้อหุ้นที่มีมูลค่ามากกว่าที่คุณมีในบัญชีของคุณ ตัวอย่างเช่นหากคุณมีบัญชี 10,000 บัญชีคุณอาจซื้อสต็อคได้มากถึง 20,000 รายการ ถ้าคุณซื้อหุ้นในลักษณะนี้และพวกเขาลงไปในมูลค่าแล้วคุณอาจจะได้รับการเรียกเงินกำไรซึ่งหมายความว่าคุณต้องเพิ่มเงินในบัญชีของคุณเพื่อลดการกู้ยืมเงินของคุณ Margin เป็นหลักประกันเงินกู้จากโบรกเกอร์ของคุณและคุณจะต้องรับผิดต่อดอกเบี้ยเงินกู้ยืมดังกล่าว ความคิดในการซื้อหุ้นโดยใช้เทคนิคนี้ก็คือผลกำไรที่คุณจะได้จากการซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นควรมากกว่าต้นทุนการกู้ยืมเงิน คุณสามารถใช้ margin ในการซื้อขายหุ้นเพื่อขายสั้นหุ้น Margin ใน Margin Trading Futures ในการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแตกต่างจากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เป็นจำนวนเงินที่คุณต้องใส่ลงในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของคุณเพื่อที่จะปฏิบัติตามข้อผูกพันใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า นี่เป็นสิ่งที่จำเป็นเนื่องจากหากการค้าฟิวเจอร์สผิดพลาดสำหรับคุณนายหน้าของคุณต้องการเงินในมือเพื่อให้สามารถครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ ตำแหน่งของคุณในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะได้รับการอัปเดตในตอนท้ายของวันและคุณอาจต้องเพิ่มเงินทุนเพิ่มเติมในบัญชีของคุณหากตำแหน่งของคุณกำลังเคลื่อนย้ายคุณ จำนวนเงินแรกที่คุณใส่ในบัญชีของคุณเพื่อให้ครอบคลุมตำแหน่งของคุณเรียกว่าระยะขอบเริ่มต้นและเงินที่ตามมาที่คุณต้องเพิ่มเป็นที่รู้จักกันว่า margin บำรุงรักษา อัตรากำไรในการซื้อขายตัวเลือกในการซื้อขายตัวเลือกอัตรากำไรจะคล้ายกับความหมายในการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเนื่องจากเป็นจำนวนเงินที่คุณต้องใส่ลงในบัญชีของคุณกับโบรกเกอร์ของคุณ เงินนี้ต้องใช้เมื่อคุณเขียนสัญญาเพื่อให้ครอบคลุมความรับผิดที่อาจเกิดขึ้นที่คุณอาจเกิดขึ้น เนื่องจากเมื่อใดก็ตามที่คุณเขียนสัญญาคุณจะสัมผัสกับความเสี่ยงโดยไม่ต้องเป็นหลัก ตัวอย่างเช่นเมื่อคุณเขียนตัวเลือกการโทรในหุ้นอ้างอิงคุณอาจจำเป็นต้องขายหุ้นดังกล่าวให้แก่ผู้ถือสัญญาเหล่านั้น สมมติว่าคุณ dont เจ้าของสต็อกที่จำเป็นแล้วคุณจะต้องซื้อจากตลาดเปิดในราคาใดที่เกิดขึ้นจะซื้อขายที่ หากมีการซื้อขายในราคาที่สูงกว่าราคานัดหยุดงานของสัญญาที่คุณเขียนไว้มากคุณก็จะเสียเงินเป็นจำนวนมาก เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถที่จะครอบคลุมความสูญเสียนั้นได้คุณจะต้องมีเงินจำนวนหนึ่งในบัญชีการซื้อขายของคุณ ซึ่งจะช่วยให้โบรกเกอร์สามารถ จำกัด ความเสี่ยงในการอนุญาตให้เจ้าของบัญชีสามารถเขียนตัวเลือกได้เนื่องจากเมื่อมีการทำสัญญาและผู้เขียนสัญญาเหล่านั้นไม่สามารถปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของตนได้นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของตนกับผู้ที่พวกเขาเขียนว่ามีความรับผิด แม้ว่าจะมีแนวทางที่กำหนดไว้สำหรับนายหน้าเกี่ยวกับระดับของอัตรากำไรที่ควรใช้โดยจริงแล้วนายหน้าต้องตัดสินใจเอง ด้วยเหตุนี้เงินที่ต้องเขียนสัญญาอาจแตกต่างกันไปจากโบรกเกอร์หนึ่งไปยังอีกรายหนึ่งและอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับระดับการซื้อขายของคุณ แต่แตกต่างจากข้อกำหนดในการซื้อขายฟิวเจอร์สความต้องการจะถูกกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์คงที่และไม่ใช่ตัวแปรที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับว่าตลาดมีการดำเนินการอย่างไร เป็นไปได้ที่จะเขียนสัญญาการเลือกโดยไม่จำเป็นต้องมีอัตรากำไรและมีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้ โดยพื้นฐานแล้วคุณจำเป็นต้องมีรูปแบบทางเลือกบางอย่างในการป้องกันการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นที่คุณอาจประสบขึ้น ตัวอย่างเช่นถ้าคุณเขียนตัวเลือกการโทรไว้ในหุ้นอ้างอิงและคุณเป็นเจ้าของหุ้นนั้นอยู่จริงจะไม่มีความจำเป็นสำหรับส่วนต่างใด ๆ เนื่องจากในกรณีที่หุ้นอ้างอิงมีมูลค่าสูงขึ้นและมีการทำสัญญาไว้คุณจะสามารถขายหุ้นของหุ้นที่คุณเป็นเจ้าของได้ แม้ว่าคุณจะขายหุ้นในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด แต่ก็ไม่มีการสูญเสียเงินสดโดยตรงเมื่อมีการทำสัญญา นอกจากนี้คุณยังสามารถเขียนตัวเลือกได้โดยไม่ต้องมีขอบถ้าคุณมีสถานะสั้น ๆ ในการรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ที่จะหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการทำกำไรเมื่อเขียนตัวเลือกโดยใช้การกระจายเดบิต เมื่อคุณสร้างการกระจายเงินตามเดบิตคุณมักจะซื้อตัวเลือกเงินและเขียนราคาถูกกว่าตัวเลือกเงินเพื่อคืนค่าใช้จ่ายบางส่วนในการดำเนินการดังกล่าว ตัวอย่างเช่นคุณสามารถซื้อตัวเลือกการโทรบนสต็อกของ บริษัท X โดยมีราคาการประท้วงเป็น 20 และเขียนตัวเลือกการโทรในหุ้นของ บริษัท X และราคาการตีราคาสูงขึ้น สมมติว่าคุณซื้อสัญญาฉบับเดียวกับที่คุณเขียนการสูญเสียของคุณมีจำนวน จำกัด และดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นในการทำกำไร มีกลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้องกับการใช้เดบิตกระจายซึ่งหมายความว่ามีวิธีการมากมายในการซื้อขายโดยไม่ต้องมีมาร์จิน อย่างไรก็ตามถ้าคุณกำลังวางแผนในการเขียนตัวเลือกที่ arent ป้องกันโดยตำแหน่งอื่นแล้วคุณจะต้องเตรียมที่จะฝากจำนวนเงินที่ต้องการของขอบกับนายหน้าตัวเลือกของคุณ การวิเคราะห์ความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนมาตรฐานการวิเคราะห์พอร์ตการลงทุนแบบมาตรฐานซึ่งเรียกว่า SPAN เป็นวิธีที่ใช้ในการคำนวณความต้องการด้านมาร์เก็ตฟิวเจอร์สและตัวเลือกฟิวเจอร์ส ยกเว้นกรณีที่คุณซื้อขายโดยใช้ตัวเลือกแบบฟิวเจอร์สแล้วสิ่งนี้จะไม่มีผลกระทบกับคุณอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากไม่มีตัวเลือกอื่น ๆ เช่นตัวเลือกหุ้นหรือตัวเลือกดัชนี ในความเป็นจริงแม้ว่าคุณจะซื้อขายตัวเลือกฟิวเจอร์สนี้ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องกังวลกับตัวเอง อย่างไรก็ตามคุณอาจได้ยินคำศัพท์ที่ใช้และอาจเป็นประโยชน์ที่จะรู้ว่ามันคืออะไร ระบบ SPAN ได้รับการพัฒนาโดย Chicago Mercantile Exchange ในปี 1988 และเป็นขั้นตอนวิธีที่ใช้ในการกำหนดความต้องการของมาร์จินที่นายหน้าควรสอบถามโดยพิจารณาจากความสูญเสียสูงสุดที่อาจเกิดขึ้นจากพอร์ตโฟลิโอ SPAN คำนวณนี้โดยการประมวลผลกำไรและขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นภายใต้สภาวะตลาดต่างๆ ดังที่เราได้กล่าวมาแล้วสิ่งสำคัญที่คุณเข้าใจเกี่ยวกับ SPAN และวิธีคิดคำนวณ แต่ถ้าคุณทำฟิวเจอร์ออฟฟิวชั่นทางการค้าจำนวนเงินที่นายหน้าของคุณต้องการจะขึ้นอยู่กับระบบ SPAN ลิขสิทธิ์การคัดลอก 2014 OptionsTrading. org - All Right Reserved โค้ชการคำนวณ: การคำนวณกำไรของคุณหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดและสนุกกับการซื้อขายคือการคำนวณผลกำไรของคุณ เพื่อประเมินการเคลื่อนย้ายที่ต้องการจากหุ้นอ้างอิงเพื่อการค้าขายทางเลือกที่มีกำไรให้ความสำคัญที่จะต้องเข้าใจถึงแนวคิดเรื่องคุณค่าที่แท้จริง เฉพาะตัวเลือกในเงินเท่านั้นที่มีมูลค่าเฉพาะซึ่งเป็นความแตกต่างระหว่างราคาการตีราคากับราคาตลาดปัจจุบันของหุ้นอ้างอิง สมมุติว่า ZYX Corp. ซื้อขายที่ระดับ 88 หากคุณซื้อ ZYX โดยมีราคาตีราคาที่ 80 สำหรับ 14 ค่าที่แท้จริงจะเท่ากับ 8 (88 ลบ 80) ส่วนที่เหลืออีก 6 (14 ลบ 8) ของค่าใช้จ่ายของ บริษัท ส่วนใหญ่มาจากมูลค่าตามเวลา ซึ่งจะลดลงเนื่องจากทางเลือกจะหมดอายุลง ในคำอื่น ๆ ที่ใกล้ตัวเลือกที่จะได้รับการหมดอายุยิ่งค่าของมันจะถูกนำมาประกอบกับค่าที่แท้จริง จำนวนเงินทั้งหมดที่ชำระให้แก่ทางเลือกคือ 1,400 (14 ครั้ง 100 หุ้นที่แสดงในสัญญา) เพื่อที่จะชดใช้เงินจำนวน 1,400 ที่คุณจ่ายให้กับ ZYX ค่าที่แท้จริงจะต้องมีอย่างน้อย 14 โดยการหมดอายุ เมื่อหมดอายุตัวเลือกทั้งหมดที่มีมูลค่ามาจากค่าที่แท้จริงเนื่องจากไม่มีค่าเวลาเหลือเมื่อหมดอายุ ดังนั้นหุ้นจะต้องมีการซื้อขายที่ 94 (ราคาตีบวกเบี้ยประกันภัยที่จ่ายสำหรับตัวเลือก) เพื่อให้ตัวเลือกที่มีค่าที่แท้จริงของ 14 ในตัวอย่างนี้ถ้าความคืบหน้า ZYX อย่างน้อย 6 จุดคุณอาจจะ สร้างรายได้จากการโทรหา ตอนนี้สมมติว่า XYZ Corp. กำลังซื้อขายอยู่ที่ 90 ปีถ้าคุณซื้อ XYZ โดยมีราคาตีราคา 95 สำหรับ 10 ค่าที่แท้จริงจะเท่ากับ 5 (95 ลบ 90) ส่วนที่เหลืออีก 5 คะแนน (10 ลบ 5) ของเบี้ยประกันภัยนั้นเป็นส่วนหนึ่งของค่าเวลาซึ่งจะลดลงเนื่องจากทางเลือกจะหมดอายุลง อีกครั้งที่ใกล้ตัวเลือกได้รับการหมดอายุยิ่งค่าของมันจะถูกนำมาประกอบกับค่าที่แท้จริง จำนวนเงินที่ชำระให้ทั้งหมดจะเท่ากับ 1,000 (10 เท่า 100 หุ้นที่แสดงในสัญญา) เพื่อชดเชย 1,000 ครั้งที่คุณจ่ายสำหรับตัวเลือก XYZ ค่าที่แท้จริงของมันจะต้องมีอย่างน้อย 10 ตามอายุการใช้งาน ดังนั้นหุ้นจะต้องมีการซื้อขายที่ 85 (ราคาตีบวกค่าเบี้ยประกันภัยที่จ่ายสำหรับตัวเลือก) เพื่อให้ตัวเลือกมีค่าภายในเท่ากับ 10 ในตัวอย่างนี้ถ้า XYZ ลดลงอย่างน้อย 5 คะแนนคุณอาจจะ สร้างรายได้จากการซื้อสินค้า ให้ดูที่การโทรที่ครอบคลุมการโทรแบบ Covered call แตกต่างจากการโทรแบบตรงและการสั่งซื้อเพราะเกี่ยวข้องกับการรวมกันของสต็อกและการขายที่เรียกเก็บเงินนอกตำรา ในความเป็นจริงส่วนของผู้ถือหุ้นไม่จำเป็นต้องย้ายไปเลยเพื่อที่จะทำเงินจากการโทรที่ครอบคลุมเนื่องจากผู้ขายจะได้รับพรีเมี่ยมตราบใดที่หุ้นยังคงอยู่ภายใต้การเรียกการโทรผ่านการหมดอายุ Schaeffers Investment Research Inc. เสนอบริการซื้อขายหลักทรัพย์แบบเรียลไทม์รวมทั้งจดหมายข่าวรายวันรายสัปดาห์และรายเดือน โปรดคลิกที่นี่เพื่อลงทะเบียนจดหมายข่าวฟรี เว็บไซต์ SchaeffersResearch ให้ข่าวการเงินการศึกษาและความเห็นรวมทั้งเครื่องกรองหุ้นตัวกรองและเครื่องมืออื่น ๆ อีกมากมาย ผู้ก่อตั้ง Bernie Schaeffer เป็นผู้เขียนหนังสือเล่มใหม่ที่ปรึกษาทางเลือก: เทคนิคการสร้างความมั่งคั่งโดยใช้ Equity amp Index Options สงวนลิขสิทธิ์. ห้ามทำสำเนาสิ่งพิมพ์ของ SIR โดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเด็ดขาด มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงไว้ในเอกสารฉบับนี้คือมุมมองและความคิดเห็นของผู้เขียนและไม่จำเป็นต้องสะท้อนถึงความคิดเห็นของผู้เขียนและไม่จำเป็นต้องสะท้อนถึงความสำคัญของ NASDAQ OMX Group, Inc. คำถามโดย Pearse FitzPatrick การคำนวณกำไรในการค้าขายทางเลือกอย่างไรกำไร (หรือขาดทุน) ของฉันคำนวณได้อย่างไร ตัวเลือกการค้าตัวอย่างเช่น ถ้าฉันขายตัวเลือกการโทรของฉันก่อนที่จะหมดอายุเป็นผลกำไรหรือขาดทุนอย่างเคร่งครัดระหว่างความแตกต่างระหว่างราคาที่ฉันชำระแล้วกับราคาเสนอที่ฉันได้รับ (หักค่าคอมมิชชั่น) หรือเป็นการรวมกันของการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นระหว่างการซื้อและ การขายด้วยสิ่งที่เหลือจากมูลค่าของตัวเลือกถามเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2009 หลักสูตรการฝึกอบรมระบบการค้าขั้นสูงหาว่านักเรียนของฉันสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอด้วยการซื้อขายตัวเลือกในตลาดสหรัฐแม้ในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำได้รับการตอบโดย Mr. OppiE Hi Pearse FitzPatrick, ย้ำคำถามของคุณคุณจะถามฉันว่าผลกำไรของคุณจะถูกคำนวณเมื่อคุณซื้อตัวเลือกการโทรและขายพวกเขาก่อนหมดอายุขวาแตกต่างจริงระหว่างการขายเพื่อปิดตัวเลือกการโทร (หรือใส่ตัวเลือก) ก่อนหมดอายุและในระหว่างการหมดอายุที่ปิดตลาดคือเมื่อ ตัวเลือกการซื้อจะขายก่อนหมดอายุพวกเขามีมูลค่าที่เหลืออยู่ในขณะที่ตัวเลือกการโทรเดียวกันที่ขายในตลาดใกล้วันหมดอายุจะไม่มีค่าภายนอกเหลือ ดังนั้นกำไรที่คุณได้รับจากการขายเพื่อปิดตัวเลือกการโทรก่อนที่จะหมดอายุคือราคาที่คุณขายในราคาเสนอเทียบกับราคาที่คุณจ่ายเมื่อซื้อเมื่อคุณซื้อ ตัวอย่างเช่น AAPL ซื้อขายที่ 90 ในเดือนกุมภาพันธ์และ 90Call เสนอราคาเสนอราคา 4.15 และราคาเสนอซื้อ 4.10 คุณตัดสินใจที่จะดำเนินกลยุทธ์การซื้อขายทางเลือกโทรแบบยาวอย่างง่ายและซื้อสัญญา 1 เดือนที่ 90Call ในราคาเสนอซื้อที่ 4.15 หลังจากผ่านไปเพียง 5 วัน AAPL ก็พุ่งขึ้นถึง 95 จุดและตอนนี้ก็คือ March90Call ซึ่งราคาเสนอราคา 7.10 และราคาเสนอซื้อ 7.00 คุณตัดสินใจที่จะทำกำไรและขายตัวเลือกการโทรเหล่านั้นในราคาเสนอซื้อ 7.00 คุณทำกำไรได้ 7.00 - 4.15 2.85 หรือ 2.85 4.15 68.7 กำไร ในตัวอย่างข้างต้นคุณจะสังเกตเห็นว่าหลังจากที่ AAPL พุ่งขึ้นเป็น 95 มาแล้ว March90Call ยังคงมีมูลค่าเพิ่มอยู่ที่ 2.00 (7.00 - 5.00) ซึ่งเป็นเหตุผลที่ราคาเสนอซื้อยังคงมีราคาเสนอ 7.00 ถ้า AAPL พุ่งถึง 95 เมื่อหมดอายุการใช้งาน March90Call ตัวเลือกเหล่านี้จะมีมูลค่า 5.00 ซึ่งประกอบด้วยเฉพาะค่าที่แท้จริงและไม่มีคุณค่าภายนอกใด ๆ คุณจะทำกำไรแตกต่างระหว่างค่านี้กับราคาที่คุณจ่ายสำหรับซึ่งเป็น 5.00 - 4.15 0.85 หรือ 20 กำไร สรุปได้ว่าในระดับราคาหุ้นเดียวกันจะมีผลกำไรมากขึ้นในการขายตัวเลือกก่อนการหมดอายุกว่าในระหว่างการหมดอายุเนื่องจากคุณสามารถกู้คืนมูลค่าที่เหลืออยู่บางส่วนได้ ในความเป็นจริงทั้งสองสถานการณ์ในคำถามของคุณชี้ไปที่คำตอบที่ถูกต้อง ความแตกต่างระหว่างราคาเสนอที่คุณได้รับกับราคาที่คุณจ่ายจริงคือความแตกต่างระหว่างราคาหุ้นกับราคาการประท้วง (ใช่ราคาประท้วงไม่ใช่ราคาของหุ้นเมื่อคุณซื้อ) และสิ่งที่เหลือจากมูลค่าของตัวเลือก (ค่าภายนอก) ตอบโดย Pearse FitzPatrick ตอบโดย Mr. OppiE การตอบกลับโดยผู้อื่น